6/7/54

::ผญาพังเพยอีสาน::บ่าวริมโขง::bandonradio

๑)  ผญาพังเพย
คำผญาพังเพยนี้มักจะกล่าวสอนขึ้นมาลอยๆเป็นคำกลางๆเพื่อให้ตีความเข้ากับเรื่อง  คำพังเพยคล้ายสุภาษิต  มีลักษณะเกือบเป็นสุภาษิต  เป็นคำที่มีลักษณะติชม  หรือแสดงความคิดเห็นอยู่ในตัว  เช่น  ทำนาบนหลังคน  คำพังเพยไม่เป็นสุภาษิตเพราะไม่เป็นคำสอนแน่นอน  และไม่ได้เน้นคำสอนในตัวเอง  เป็นลักษณะคำเปรียบเทียบ
ลักษณะของคำพังเพยอีสานนี้เรียกอีกอย่างว่า  คำโตงโตยหรือยาบสร้อย  บางท้องถิ่นนิยมเรียกว่า  ตวบต้วยหรือยาบเว้า  เป็นข้อความในเชิงอุปมาอุปไมยที่ไพเราะสละสลวยและมีความหมายลึกซึ่งคมคายเช่นเดียวกับผญาภาษิต  บางคำมีความหมายลึกซึ้งเข้าใจยากกว่าผญาภาษิตมาก มีนัยต่างกันบ้างกับผญาภาษิตตรงที่คำพังเพยหรือยาบสร้อยนี้ไม่เป็นคำสอนเหมือนผญาภาษิต  เป็นเพียงคำเปรียบเทียบที่ให้ข้อเตือนใจหรือเตือนสติให้คนเรานึกถึงทางดีหรือทางชั่ว  ผญาพังเพยจัดเป็นความเปรียบเทียบ  กล่าวคือแสดงทรรศนะบ้างอย่างเพื่อแสดงให้เห็นภาพพจน์ชัดเจน  ดังคำพังเพยว่า  “  เห็นว่าเวียงจันทร์เศร้า  สาวเอยอย่าฟ้าวว่า  มันสิโป้บาดหลา  คือแตงช้างหน่วยปลาย” ๑๖ จากข้อความนี้เปรียบเทียบให้เห็นถึงเมืองเวียงจันทร์ที่ยังไม่เจริญรุ่งเรืองเหมือนกรุงเทพฯ  มักจะนำเปรียบเทียบกับกรุงเทพฯ ที่เจริญกว่า  แต่ก็อย่าประมาทว่าเวียงจันทร์จะไม่เจริญ  ในคำพังเพยนี้บอกเป็นนัยว่า  เมืองเวียงจันทร์จะเจริญรุ่งเรืองขึ้นในอนาคต  และนัยตรงกันข้ามก็มีคำพังเพยที่กล่าวถึงความเสื่อมของกรุงเทพฯเอาไว้ว่า “ เวียงจันทร์ฮ้าง  สิเป็นโพนขี้หมาจอก  บาดห่าบางกอกฮ้าง  สิเป็นหม่องกระต่ายนอน”๑๗
    นักปรัชญาอีสานมักจะสรรหาคำที่เปรียบเทียบถึงลักษณะของคนไว้อย่างน่าสนใจว่า การดูคนนั้นจะต้องพิจารณาให้เห็นถึงต้นตระกูลของบุคคลนั้นว่ามีนิสัยอย่างไร  ก็มักจะแสดงออกมาตามต้นกำเนิดคือพ่อแม่  ดังมีคำพังเพยว่า  “เซื้อหมากต้อง  บ่ห่อนหล่นไกกก  แนวผมดก  บ่ห่อนหัวเป็นล้าน๑๘ (  ลูกกระท้อนไม่หล่นไกลต้น  คนที่มีเชื่อแถวเป็นคนผมดกหัวคงไม่ล้าน)  มีนัยถึงคนที่ดีหรือชั่วนั้นอาจดูได้จากพ่อแม่ของคนนั้น  ถ้าพ่อแม่ดีลูกก็จะถูกฝึกอบรมให้เป็นคนดีได้ด้วย 
    คำว่าโลกธรรม  คือมีมาประจำกับโลกมนุษย์  สิ่งนั้นคือ  สรรเสริญ  นินทา  ปราชญ์อีสานได้กล่าวถึงสิ่งเหล่านี้ดังคำพังเพยว่า  “  ซื่อว่าการยกย่อง  นินทาประจำโลก  มีแต่ปู๋แต่ปู้  หนีได้ฮ่อมได๋” ๑๙ (อันการยกย่องสรรเสริญและการนินทานั้นเป็นของประจำโลก มีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว  ไม่มีใครจะหลีหนีพ้นได้)  จากคำพังเพยบทนี้ชี้ให้เห็นว่า  สิ่งนี้เป็นโลกธรรม  อย่างแท้จริง  ไม่มีใครจะหลีหนีพ้นจากคำกล่าวเหล่านี้  นักปราชญ์อีสานมักจะสอนให้รู้และสามารถทำใจได้หรือปล่อยว่างได้  คนจะมีความสุขสงบได้
    ผญาคำพังเพย คือคำผญาที่พูดเป็นประโยคสั้นๆ  เพื่อเป็นคติเล็กๆ น้อยๆ  เป็นคำพูดคมคายชวยให้คิด  เป็นคำปัญหาหรือตลก  เป็นคำไพเราะเพราะพริ้ง น่าฟัง  หรือชวยให้เพลิดเพลิน  มักเป็นคำกล่าวสั้นๆ  เพียงประโยคเดียวหรือสองประโยค  และส่วนมากไม่เกินสี่วรรคหรือสี่ประโยค เช่น  ขายของให้พี่น้อง   ขายฆ้องให้เจ้าหัว

bandonradio

ส่งข่าวถึงกันและกัน

Recent Posts

www.bandonradio.blogspot.com = คลื่นแห่งสาระบันเทิง ..

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons