8/7/54

9::ฮีตสิบสอง(ประเพณีทำบุญในรอบ๑๒ เดือน)

๑.  ฮีตสิบสอง(ประเพณีทำบุญในรอบ๑๒ เดือน)
       ฮีตสิบสองและคองสิบสี่  เป็นเหมือนแม่บทในการดำเนินชีวิตในสังคมอีสาน  และมีอิทธิพลเหนือจิตใจของชาวบ้านมาก  แม้ว่าต้นฉบับจะไม่ค่อยแพร่หลายนักแต่การดำเนินชีวิตประจำวันนั้นก็ยังยึดแนวในฮีต(จารีต) เป็นหลัก  ฮีตสิบสองนั้นเป็นการประพฤติปฏิบัติตามประเพณีสังคมในรอบปี  ว่าเดือนไหนทำอะไร  และทำอย่างไร  เพื่ออะไร  ตลอดทั้งปี  ส่วนคองสิบสี่  คือครรลองแห่งชีวิตสิบสี่ประการ  ที่เป็นหลักของการปกครอง  ๑๔  ข้อเพื่อดำรงรักษาไว้ซึ่งจารีตประเพณีและทำนองคองธรรมอันดีงานของท้องถิ่นและของบ้านเมือง คองสิบสี่เป็นแนวทางที่ใช้เป็นหลักปฏิบัติ  ๒  ประการใหญ่คือ  สำหรับบุคคลธรรมดาที่ประพฤติปฏิบัติกันอย่างหนึ่ง  และผู้ที่มีหน้าที่ในการปกครองบ้านเมืองนับตั้งแต่ข้าราชการชั้นผู้น้อยถึงชั้นผู้ใหญ่  พึงปฏิบัติกันเมื่อกล่าวถึงคองก็มักจะมีคำว่า  ฮีตเป็นคู่กันมาด้วยเสมอยากที่จะแยกขาดจากกันได้เป็นการนำเอาธรรมเข้ามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับคองสิบสี่  ที่ท่านเจ้าคุณอริยานุวัตร  วัดมหาชัย  จังหวัดมหาสารคามได้สรุปไว้มีดังนี้คือ
    ๑)  บุญเดือนอ้าย(เดือน๑)  ทำบุญเข้ากรรม  เป็นเดือนที่พระสงฆ์เข้าอยู่ปริวาสกรรมเพื่อความบริสุทธิ์ล้างอาบัติมลทิน  ชาวบ้านก็จะมาทำบุญถวายภัตตาหารแก่พระภิกษุที่เข้าอยู่ปริวาสกรรมนั้นเพื่อทำให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยต่อไป  และทางฆารวาสก็จะมีการทำบุญเลี้ยงผีต่างๆตามความเชื้อของคนโบราณที่นับถือวิญญาณดังคำกล่าวว่า
ถึงเดือนเจี่ยงนั่นให้ฝูงหมู่เจ้าเลี้ยงผีมด  ผีหมอ ผีฟ้า  ผีแถนและนิมนต์สงฆ์  พระเจ้ามาเข้ากรรมนั่นแล  ดูราฝูงเจ้าพี่น้องทั้งหลายอย่าได้ปะ(ปล่อยทิ้ง)ได้ถิ่มฮีตเก่าคองหลังเฮาเดอให้ฝูงพวกเจ้าซอยกันเฮ็ดกันทำนั่นถ่อน74ฯฮีตหนึ่งนั้นเถิงเมือเดือนเจียงเข้ากลายมาแถมถ่าย  ฝูงหมู่สังฆเจ้าก็เตรียมเข้าอยู่กรรม  มันหากธรรมเนียมนี้ถือมาตั้งแต่ก่อน  อย่าได้ละห่างเว้นเข็ญสิข่องแล่นนำ แท้วแล้ว75
    ๒)  บุญเดือนยี่(เดือน๒)  ให้พากันทำบุญคูนลานนิมนต์พระสงฆ์มาสวดมนต์เย็นเพื่อเป็นมงคลแก่ข้าวเปลือก  เมื่อพระฉันข้าวแล้วจะทำพิธีสู่ขวัญข้าวนอกจากนี้ชาวบ้านจะเตรียมเก็บสะสมฟืนไว้หุงต้มที่บ้าน  ดังคำโบราณว่าดังนี้
เถิงฤดูเดือนยี่มาฮอดแล้ว  ให้นิมนต์พระสงฆ์องค์เจ้ามาตั้งสวดมุงคุณ(มงคล)เอาบุณคุณข้าวเตรียมเข่าป่าหาไม้เฮ็ดหลัวเฮ็ดฟืนไว้นั่นก่อนอย่าได้หลงลืมถิ่มฮีตเดิมคองเก่าเฮ่าเดอ  ฮีตหนึ่งนั้น  พอแต่เดือนยี่ได้ล้ำล่วงมาเถิงให้พากันหาฟืนสู่คนโฮมไว้  อย่าได้ไลคองนี้มันสิสูญเสียเปล่า  ข้าวและของหมู่นั้นสิหายเสี่ยงบ่ยัง  จงให้ฟังคองนี้แนวกลอนเฮาบอกอย่าเอาใดออกแท้เข็ญฮ้ายสิแล่นเถิง เจ้าเอย
    ๓)  บุญเดือนสาม  ให้พากันทำบุญข้าวจี่และทำบุญมาฆะบูชา  ดังคำกล่าวของโบราณว่าไว้ดังนี้
พอเถิงเดือนสามค่อย(คล้อย)เจ้าหัวคอยปั้นข้าวจี่  ปั้นข้าวจี่บ่ใส่น้ำอ้อยจั่วน้อย(สามเณรน้อย)เซ็ดน้ำตา  ฮีตหนึ่งนั้นเถิงเมื่อเดือนสามได้จงพากันจี่ไปถวายสังฆเจ้าเอาแท้หมู่บุญ  กุศลยังสินำค้ำตามเฮาเมื่อละคาบ  หากธรรมเนียมจั่งชี้มีแท้แต่นาน  ให้ทำไปทุกบ้านทุกที่เอาบุญพ่อเอย  คองหากเคยมีมาแต่ปางปฐม
พุ้นอย่าได้พากันไลถิ่มประเพณีตั้งแต่เก่าบ้านเมืองเฮาสิเศร้าภัยฮ้ายสิแล่นตาม 76
    ๔)  บุญเดือนสี่(ทำบุญพระเวส)  มีการฟังเทศน์มหาชาติ  ดังคำโบราณว่า
เถิงฤดูเดือนสี่เข้าให้ทำบุญมหาชาติ  ให้เที่ยวหาดอกไม้มาไว้บูชานั้นถ่อน  อย่าสิไลลืมถิ่มโบราณของเก่า  เอาดอกไม้ถวายให้พระสงฆ์  เพิ่นจักเทศนาให้ฝูงเฮารู้บุญบาป  มีลาภล้นเหลือแท้ดังประสงค์เฮาเด77  หรือ  ฮีตหนึ่ง พอเถิงเดือนสี่ได้ให้เก็บดอกบุปผาหามาลาดวงหอมสู่คนเก็บไว้  อย่าได้ไลคองนี้เสียศรีสูญเปล่า  หาเอาตากแดดไว้ให้ทำแท้สู่คน แท้ดาย  อย่าได้ไลหนีเว้นแนวคองตั้งแต่เก่า  ไฟทั้งหลายสิแล่นเข้าเผาบ้านสิเสื่อมสูญ78
    ๕)  บุญเดือนห้า(ตรุษสงกรานต์หรือบุญสรงน้ำ)  มีการสรงน้ำพระพุทธรูปและสรงน้ำญาติผู้ใหญ่ตลอดถึงการก่อพระเจดีย์ทรายและปล่อยนกปล่อยปลา  ดังคำโบราณว่า
ฮีตหนึ่งนั้น พอเถิงเดือนห้าได้พวกไพร่ชาวเมืองจงพากันสรงน้ำขัดสีพระพุทธรูป  ให้ทำทุกวัดแท้อย่าไลม้างห่องเสีย  ให้พากันทำแท้ๆไผๆบ่ได้ว่า  ทุกทั่วทีปแผ่นหล้าให้ทำแท้สู่คน  จั่งสิสุขยิ่งล้นทำถึกคำสอน  ถือฮีตคองควรถือแต่หลังปฐมพุ้น79
    ๖)  บุญเดือนหก(ทำบุญบั้งไฟและวิสาขบูชา)  ทำบุญบั้งไฟเพื่อขอฝนจากพระยาแถนและมีการบวชนาคพร้อมกันด้วยเป็นงานสำคัญก่อนที่จะลงมือทำไรทำนา  ดังคำโบราณว่า
ฮีตหนึ่งนั้น  พอเถิงเดือนหกแล้ว  ให้นำเอาน้ำวารีสรงโสด   ฮดพระพุทธรูปเหนือใต้สุ่ภาย  อย่าได้ละเบี่ยงบ้ายปัดป่ายหายหยุด  มันสิสูญเสียศรีต่ำไปเมือหน้า  จงพากันทำแท้แนวคองฮีตเก่า  เอาไปเรื่อยๆอย่าถอยหน้าอย่าเสีย80
    ๗)  บุญเดือนเจ็ด(ทำบุญชำฮะหรือชำระ)  ชาวบ้านจะพากันทำความสะอาดบ้านเรือนเครื่องนุ่งห่ม  เจ้าเมืองจะทำพิธีถอดถอนหลักเมือง  และตอกหลักเมือง  ถ้าปรากฏว่าบ้านเมืองไม่ปกติสุขมีโจรผู้ร้าย  เกิดทุพภิกขภัย  เจ้านายทะเลาะกัน  ถือว่าชะตาเมืองขาดต้องมีการชำระไล่เสนียดจัญไรออกไป  ฉะนั้นจึงมีพิธีกรรมถอดถอนหลักเมืองเพื่อเป็นเคล็ด  แล้วตอกกลักเมืองกันใหม่ตามหมู่บ้านโดยทั่วไป  เรียกว่าหลักบ้านก็ทำพิธีเข่นนี้เหมือนกันดังคำโบราณว่า
ฮีตหนึ่งนั้น  พอเมือเดือนเจ็ดแล้วจงพากันบูชาราช  ฝูงหมู่เทพเหล่านั้นบูชาแท้สู่ภาย  ตลอดไปฮอดอ้ายอาฮักษ์ใหญ่มเหสัก  ทั้งหลักเมืองสู่หนบูชาเจ้า  พากันเอาใจตั้งทำตามฮีตเก่า  นิมนต์สังฆเจ้าชำฮะแท้สวดมนต์ให้ฝูงคนเมืองนั้นทำกันอย่าได้ห่าง  สูตรชำฮะเมืองอย่างค้างสิเสียเศร้าต่ำศูนย์  ทุกข์สิแล่นวุ่นๆ  มาโฮมใส่เต็มเมือง  มันสิเคืองคำขัดต่ำลงศูนย์เศร้าให้เจ้าทำตามนี้แนวเฮาสิกล่าว  จึงสิสุขอยู่สร้างสรรค์ฟ้าเกิ่งกัน  ทุกข์หมื่นฮ้อยชั้นบ่มีว่ามาพาน  ปานกับเมืองสวรรค์สุขเกิ่งกันเทียมได้81
    ๘)  บุญเดือนแปดทำบุญเข้าพรรษา  คือการเข้าอยู่จำพรรษาตลอด ๓ เดือนของพระภิกษุดังนั้นบุญในเดือนนี้จะมีการถวายต้นเทียนจำพรรษาและถวายผ้าอาบน้ำฝน  ดังคำโบราณว่า
ฮีตหนึ่งนั้นพอเถิงเดือนแปดได้ล้ำล่วงมาเถิง  ฝูงหมู่สังโฆคุณ เข้าวัสสาจำจ้อย  ทำตามฮอยของเจ้าพระโคดมทำก่อน  บ่ทะสอนเลิกม้างทำแท้สู่ภาย  แล้วจงพากันผ่ายหาของไปเททอด  ทำทานไปอย่าได้คร้านเอาไว้หมู่บุญ  สิเป็นของหนุนเจ้าไปเทิงอากาศ  สู่สวรรค์บ่ฮ้อนด้วยบุญนี้ส่งไป  เพิ่นจึงตรัสบอกไว้ฮีตเก่าคองหลัง  ฟังให้ดีมันคักอย่าไลเดอเจ้า  จงให้พากันเข้าทำทานตักบาตร  อย่าขาดได้ไปแท้สู่คน  โอกาสนี้ เพิ่นให้เที่ยวซอกค้น  ขุดก่นขุมบุญเอาทุนไปภายหน้าเมื่อตายไปแล้ว  เป็นแนวนำเฮาขึ้นบันได้ทองเที่ยวท่อง  ขึ้นสู่ห้องชั้นฟ้าสวรรค์พุ้นอยู่เย็น  ฝูงหมู่วิบากเว้นบ่มีว่าสิมาพาน  เนาว์วิมานแสนสุขทุกข์หายบ่มาใกล้82
    ๙)  ทำบุญเก้า(ทำบุญข้าวประดับดิน)ชาวบ้านจะนำอาหารหวานคาว  หมากพลูบุหรี่ห่อเป็นห่อมาแขวนไว้ตามต้นไม้ในวัด  ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันขึ้น  ๑๔ ค่ำ  เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว  และถวายภัตตาหารเข้าแก่พระสงฆ์  ตรวจน้ำแผ่ส่วนบุญให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว เป็นเปรตพลี ดังคำโบราณว่า
ฮีตหนึ่งนั้นพอถึงเดือนเก้าแล้วเป็นกลางแห่งวัสสกาล  ฝูงประชาชนชาวเมืองก็เล่าเตรีมตัวพร้อม  พากนทานยังข้าวประดับดินกินก่อนทายกทานให้เจ้าพระสงฆ์พร้อมอยู่ภาย  ทำจั่งชี้บ่ย้ายเถิงขวบปีมา  พระราชาในเมืองก็จงทำแนวนี้  ฮีตหากมีมาแล้ววางลงให้ถือต่อ  จำไว้เด้อพ่อเฒ่า  หลานเว้ากล่าวจา83
    ๑๐)  ทำบุญเดือนสิบคือทำบุญข้าวสาก(สลากภัตต์)ตรงกับวันเพ็ญเดือนสิบจึงเรียกว่าบุญเดือนสิบ  ผู้ถวายจะเขียนชื่อของตนลงในภาชนะที่ใสของทานและเขียนชื่อลงในบาตร  ภิกษุสามเณรรูปใดจับได้สลากของใครผู้นั้นก็เข้าไปถวายของจึงเรียกว่าสลากภัตรดังคำโบราณว่า
    อีตหนึ่งนั้น  พอเมื่อเถิงเดือนสิบแล้วทายกทอดบวยบานเบิกพลีทำทานต่อมาสองซ้ำ  ข้าวสลากนำไปให้สังโฆกาทอด  พากันหวังยอดแก้วนิพพานพ้นที่สูง  ฝูงหมู่ลุงอาว์ป้าคณาเนืองน้อมส่ง  ศรัทธาลงทอดไว้ทานให้แผ่ไป  อุทิศให้ฝูงเปรตเปโต  พากันโมทนานำสู่คนจนเกลี้ยง84
    ๑๑)  บุญเดือนสิบเอ็ดคือบุญวันออกพรรษา  เป็นที่พระสงฆ์ให้โอกาสว่ากล่าวตักเตือนกันไม่ว่าอาวุโสหรือภันเตให้เตือนกันได้เรียกว่าปวารณาตัวเองให้คนอื่นชี้โทษเพื่อสำรวมระวังต่อไป  ส่วนฆราวาสก็มีการลอยเรือไฟ  ตามทีปโคมไฟนำไปแขวนไว้ตามต้นไม้หรือรั้ววัด  และถวายต้นปราสาทเผิ้ง(ปราสาทผึ้ง)และมีการแข่งเรือในบางท้องที่ด้วย  ดังคำโบราณว่า
ฮีตหนึ่งนั้นเถิงเดือนสิบเอ็ดแล้วเป็นแนวทางป่อง  เป็นช่องของพระเจ้าเคยเข้าแล้วออกมา  เถิงวัสสามาแล้วสามเดือนก็เลยออก  เฮียกว่าออกพรรษาปวารณากล่าวไว้เฮาได้เล่ามา85
    ๑๒)  บุญเดือนสิบสอง  คือบุญกฐินเริ่มตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ถึงวันเพ็ญเดือน ๑๒  เรียกว่ากาลกฐิน  จึงเรียกเดือนนี้ว่าบุญกฐิน  ดังคำโบราณว่า
ฮีตหนึ่งนั้น  เดือนสิบสองมาแล้วลมวอยๆหนาวสั่น  เดือนนี้หนาวสะบั่นบ่คือแท้แต่หลัง  ในเดือนนี้เพิ่นว่าให้ลงทอดพายเฮือซวงกันบูชา ฝูงนาโคนาคเนาว์ในพื้น  ชื่อว่า อุพะนาโคเนาว์ในพื้นแผ่นสิบห้าสกุลบอกไว้บูชาให้ส่งสะการ  จงให้ทำทุกบ้านบูชาท่านนาโค  แล้วลงโมทนาดอมชื่นซมกันเล่น  กลางเว็นกลางคืนให้ระงมกันขับเสพ  จึงสิสุขอยู่สร้างสบายเนื้ออยู่เย็น  ทุกข์ทั้งหลายหลีกเว้นหนีห่างบ่มีพานของสามานย์ทั้งปวงบ่ได้มีมาใกล้  ไผู้ผู้ทำตามนี้เจริญขึ้นยิ่งๆทุกสิ่งบ่ได้ทั้งข้าวหมู่ของ  กรรมบ่ได้ถืกต้องลำบากในตัว  โลดบ่มีมัวหมองอย่างใดพอดี้  มีแต่สุขีล้นคองคนสนุกยิ่ง  อดให้หลิงป่องนี้เด้อเจ้าแก่ชรา86
       ประเพณีดังกล่าวมานี้ถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกคนทุกฝ่ายที่จะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังตั้งแต่เดือน ๑  จนถึงเดือนสิบสอง  ใครที่ไม่ไปช่วยงานจะถูกชาวบ้านด้วยกันตำหนิ  งานบุญทั้งสิบสองเดือนนี้จึงทำให้ชาวอีสานมีความสนิทสนมกัน  ทุกหมู่บ้านทุกคนรู้จักกันหมดด้วยจึงเป็นการสร้างสรรค์ความสมัครสมานสามัคคีระหว่างชุมชนด้วยกันเองอีกด้วย  ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม

bandonradio

ส่งข่าวถึงกันและกัน

Recent Posts

www.bandonradio.blogspot.com = คลื่นแห่งสาระบันเทิง ..

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons