9/7/54

23. บทเพลงลูกทุ่งกับบุญพิธี

            พิธีทำบุญการทำบุญเลี้ยงพระในงานอวมงคลเป็นการทำบุญที่ปรารถเหตุการตายเกิดขึ้นในครอบครัวมี  ๒  ประเภท  คือ  งานทำบุญหน้าศพได้แก่การทำบุญในพิธีการทำบุญ  ๗  วัน  ๕๐  วัน  ๑๐๐  วัน  และการทำบุญอัฐิการทำบุญครอบรอบวันตาย  เป็นต้น(สุเมธ)  และเพลงลูกทุ่งมีการกล่าวถึงในเรื่องนี้ไว้น้อยมาก  ตามที่ผู้ศึกษาได้ค้นพบ
             พุทธศาสนิกชนไทย  เมื่อถึงคราวสิ้นชีวิตลงจะต้องมีการนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดการสวดอาจจะตั้งไว้  ๓  คือบ้าง  ๕  คืนบ้าง  หรือมากกว่านั้นบทเพลงลูกทุ่งชื่อว่าวอนรักเป็นการแสดงออกของชายหนุ่มผู้ซึ่งมีรักไม่เสื่อมคลาย  และอาลัยอาวรณ์หาคู่รักเมื่อฟังพระสวดกุสลาก็อดที่จะสะท้อนความรู้สึกไม่ได้  ดังบทเพลงว่า
    “พระสวดกุสลา  น้ำตาฉันเอ่อ  ภาพเราสองคนนั้นเออ
    ทำให้เพ้อทูนหัว  เราสาบานรักต่อกันด้วยใจพันพัว  วิญญาณ
    น้องอย่าได้หวั่นไหว  จะรักทูนหัวตลอดชาตินี้”
        (วอนรัก  :  ขับร้องโดย ยอดรัก  สลักใจ)
    ถ้าผู้ตายมีบุตรหลานเป็นชาย  บุตรหลานมักจะบวชให้ในวันเผาชาวบ้านเรียกว่า  “บวชหน้าไฟ” (สุเมธ)  เป็นการบภายในระยะอันสั้นเพื่อจะจูงศพเท่านั้น  แต่ในขณะเดียวกันชาวพุทะก็มีความเชื่อว่าได้แสดงออกถึงความเป็นผู้กตัญญูกตเวทีเพราะบิดามารดาทั้งหลายย่อมหวังในตัวบุตรธิดาว่า
    “เมื่อยามแก่หมายเจ้าเฝ้ารับใช้  เมื่อยามไข้หมายเจ้าเฝ้ารักษา
    เมื่อยามถึงวันตายวายชีวา  หวังเจ้าช่วยปิดตาคราสิ้นใจ”
    สาระของบทเพลงลูกทุ่งที่กล่าวไว้อย่างสอดคล้องกับบทกลอนนี้ เช่น  เพลงสามเณรกำพร้า  ดังบทเพลงว่า
    “สิ้นร่มโพธิ์โถน่าใจหาย  อกเอ๋ยเหลือแต่ร่มไทร
    ต้องกลายเป็นลูกกำพร้า  ลูกขอลาบวชกรวดน้ำอุทิศไปหา
    พ่อเป็นทหารกล้าตายเพื่อรักษาชาติเรา
    ตัดสินใจโกนหัวบวชแล้ว  จูงศพพ่อขึ้นสู่เมรุ ชีวิตของ
    เณรแสนเศร้า โอ้ โอ  คุณพ่อวันนี้จะต้องถูกเผา  ร่างกายพ่อต้องเป็นเถ้าถูกไฟเผาแน่พ่อจ๋า..”
        (สามเณรกำพร้า :  สัมฤทธิ์  รุ่งโรจน์)
    เมื่อเผาศพและเก็บอัฐิมาบ้านแล้วจะมีการทำบุญ  ซึ่งกระทำแตกต่างกันไป  บางคนทำบุญ   ๗  วัน   บางคนก็ทำในวันนำเย็น  บังสุกุล  และเทศน์(พูนพิศมัย)   ในทางพระพุทธศาสนาสรรเสริญบุตรธิดาผู้ระลึกที่ทำแก่บุพการีบุคคลฉะนั้น   บุตรธิดาเช่นนี้  เรียกว่า “โอวาทการี  ภตโบสีบุคคลผู้ทำตามโอวาทบำรุงเลี้ยงท่านผู้ได้เลี้ยงตนหมา  ดำรงวงศ์สกุลมิให้เสื่อมทราม  เป็นคนมีศรัทธา  สมบูรณ์ด้วยศีลเป็นผู้อันบัณฑิตพึงสรรเสริญดังนี้
    ในพระพุทธภาษิตนี้  พระพุทธองค์ทรงแสดงความปรารถของบิดามารดาผู้เป็นบัณฑิตโดยสถาน  ๕  ประการ คือ การเลี้ยงเป็นที่  ๑  การทำกิจเป็นที่  ๒  ดำรงศ์สกุลเป็นที่  ๓  ประพฤติตนสมควรเป็นทายาทเป็นที่  ๔  ทำบุญอุทิศให้ท่านเป็นที่  ๕  และบทเพลงกล่าวถึงการทำบุญหลังเก็บกระดูกอัฐิไว้ว่า
    “...ลูกจะขอทำบุญเจ็ดวันนิมนต์พระเทศน์หนึ่งกัณฑ์
    อุทิศผลทานหา  ขอให้วิญญาณพ่อสู่สวรรค์ชั้นฟ้า
    สามเณรกำพร้า  จะทำบุญหาพ่อเอง
    (สามเณรกำพร้า :  สัมฤทธิ์  รุ่งโรจน์)
    พิธีกรรมตามความเชื่อในประเพณีท้องถิ่นบางอย่างเกิดขึ้นเพราะความเชื่อเรื่องวิญญาณเป็นอมตะข้ามภพชาติได้ตามหลักศาสนาในชนบทนั้นบางที่ยังมีกองฟอน  เพื่อสำหรับการเผาศพ  ชาวบ้านจะต้องนำศพขึ้นกองฟอนแล้วเผา
    ชาวชนบทมีความเชื่อว่า  ขณะที่ไฟกำลังลุกโชนอยู่นั้น  ญาติพี่น้องผู้ตายจะกลับก็มีธรรมเนียมชักฟืนออก  ๓  ดุ้น  แล้วจึงเดินหันหลังกลับแล้วห้ามเหลียวหลังอีก  ฟืนติดไฟ  ๓  ดิ้น ก็หมายถึง ไฟคือ โลภะ โทสะ  โมหะ  ผู้ใดมีอยู่ก็จะเดือดร้อน  ยิ่งมีมากก็ยิ่งเผาผลาญผู้นั้นให้เร่าร้อนหาความสุขไม่ได้  ฉะนั้นจึงต้องชักออกไปเสียจากจิตจึงจะเป็นสุข  ถ้าเพิกถอนเสียโดยสิ้นเชิงก็เป็นพระขีณาสพผู้ดับเย็น   การห้ามเหลียวหลังเป็นการเตือนคนเป็นว่าอย่ากลับไปประพฤติสิ่งที่เป็นโลภะ  โทสะ  โมหะอีก(ผศ.สุเมธ)
    บทเพลงลูกทุ่งได้บรรยายถึงการเศร้าโศกเสียใจเมื่อความพลัดพรากจากกันมาถึงการปรารถนาพบกันในชาติหน้าก็เป็นความเชื่อถือหรือการปลอบใจตนเอง  ให้บรรเทาความทุกข์ลง  เพราะการพลัดพรากจากกันด้วยการตายนั้นเป็นการจากที่ไม่มีวันกลับมาที่ไม่มีวันกลับมาจะได้เห็นหน้ากันอีกดังสุภาษิตว่า
    “คนที่รักใคร่กัน  ตายจากไปแล้ว  ก็จะไม่ได้พบเห็น
    กันอีก  เหมือนคนตื่นขึ้น  ไม่เห็นสิ่งที่พบในฝัน”(สุปิเนน)
    ในเพลงสิ้นใจเมียนั้น  กล่าวถึงการจากไปของเมีย  และผัวก็รับภาระเลี้ยงลูกพร้อมทั้งยินดีจะบวชให้เมีย  ดังบทเพลงว่า
    “...มองเห็นศพน้องในกองฟอน  เสียงพระสวดมนต์
    อวยพร  พี่แสนอาวรณ์อาลัย  พี่ป้า,น้า,อา  ต่างก็มีความเศร้าใจ
    ลูกน้อยคร่ำครวญร้องไห้  มองเห็นควันไฟควันพุ่งขึ้นฟ้า
           เมียเอ๋ยเมียข้าหากชาติหน้ามี  จงมาเป็นเมียที่ดี
    เป็นราณีผัวนี้ครั้งใหม่  ผัวจะถนอมลูกน้อยของเราเติบใหญ่
    ขอบวชแทนคุณขวัญใจที่ลาลับไปสู่ในโลกา”
            (สิ้นใจเมีย  :  บรรจง  วรจักร์)
    ประเพณีของคนไทยเรานั้น  เมื่อญาติพี่น้องตายก็ต้องให้พบพระการนิมนต์พระในงานอวมงคล  ก็ใช้พระตั้งแต่  ๕  รูปขึ้นไป  การตระเตรียมทุกอย่างในด้านพิธีกรรม  ก็ใช้พิธีแบบพระพุทธศาสนา  เช่น  การปูลาดออาสนะสงฆ์  ถึงโต๊ะหมู่บูชา  พร้อมทั้งเครื่องสักการะ   เตรียมของต้อนรับพระและแขก  เตรียมสายโยงหรือภูษาโยง  ต่อจากโลงศพหรือที่เก็บอัฐิ  ไม่มีการวางสายสิจญน์และหม้อน้ำมนต์และตระเตรียมอาหารคาวหวาน  เป็นต้น
    เมื่อพระมานั่งประจำที่ก็ประเคนของรับรอบได้เวลาแล้วเจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยแล้วจุดที่หน้าศพ   การสวดมนต์มาติกาบังสกุลแล้วถวายไทยธรรม  พระสงฆ์อนุโมทนาเจ้าภาพกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตายเป็นพิธีทางพระพุทธศาสนาที่เรียกว่าศาสนาพิธีสืบต่อกันมา
    การฟังพระสวดมนต์นั้น  แท้ที่จริงแล้วเป็นหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาที่สอนให้ผู้อยู่ข้างหลังได้มีสติและทำใจได้  เพราะบทสวดกุสลาเมื่อจะสรุปความแล้วก็คือหลักธรรมที่สอนชาวพุทธ   แต่เพราะเป็นภาษาบาลีจึงไม่มีใครแปลออก
    แต่ธรรมที่แท้จริง  ย่อมสอนให้ญาติพี่น้องทำใจและคลายความโสกเศร้าเสียใจลงไปเพราะแม้นจะร้องไห้คร่ำครวญก็ไม่สามารถจะเรียกกลับคืนมาให้  ดังสุภาษิตที่มาในสัลลสุตร* (ตสฺมา)  ว่า
    “เพราะเหตุนั้น  เมื่อสดังธรรมเทศนาของพระท่านแล้ว
    ก็พึงระงับความคร่ำครวญร่ำไห้เสีย  ยามเมื่อเห็นคนล่วงลับ
    ดับชีวิตไปแล้วก็ให้กำหนดว่า  เขาตายแล้ว  เราจะให้เขาฟื้น
    ขึ้นมาอีกไม่ได้”*(ตสฺมา)
    บทเพลงลูกทุ่งมีกล่าวไว้เพียงหนุ่มผู้รักจริง  คร่ำครวญถึงคู่รักผู้จากไปในเหตุการณ์ที่ฟังพระสวดกุสลาอยู่   เกิดสะท้อนความคิดถึงคู่รักของตนเองผู้ซึ่งจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย  เพื่อตัดปัญหาจากโลกนี้  ดังบทเพลงว่า
    “...เสียงพระสวดกุสลาธรรมา   พ่อแม่พี่ป้าน้าเอาเศร้าใจ
    หนักหนาโศกาโศกี  เหตุการณ์ครั้งนี้เธอพร้อมยอมพลีทุกอย่าง
    ขอให้วิญญาณของนาง  จงมารับรู้อีกที  เมื่อก่อนเป็นคน
    เจ้าเคยลุ่มหลงเสียงพี่  ชีวิตดับลงเป็นผีฝากเพลงนี้ตอบแทน
    น้ำใจ  ไปสู่สุขาวดี  ชาติหน้าถ้ามี  ค่อยมาพบกันครั้งใหม่
    รักจริงจากนางเมื่อพี่รู้ก็สายเกินไป  แสนเศร้าเสียใจในการ
    จากไปของจันทร์เพ็ญ”
    (แด่ดวงวิญญาณจันทร์เพ็ญ  :  เฉลิมพล  มาลาคำ)

bandonradio

ส่งข่าวถึงกันและกัน

Recent Posts

www.bandonradio.blogspot.com = คลื่นแห่งสาระบันเทิง ..

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons